บทความ
บทความ
สำหรับการสร้างหมวดหมู่และบทความที่ต้องการให้แสดงในหน้าเว็บไซต์
หมวดหมู่
1. คลิก เพิ่ม เพื่อสร้างหมวดหมู่บทความ
2. ระบุข้อมูลทั่วไป คือ Handle และรายละเอียด ชื่อที่แสดงบนเว็บไซต์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
บทความ
1. ไปที่หัวข้อ บทความ คลิก เพิ่ม เพื่อสร้างบทความ
2. ข้อมูลทั่วไป สามารถระบุรายละเอียดได้ ดังนี้
- รูปภาพ: อัปโหลดรูปภาพหลักของบทความ
- คำอธิบายรูปภาพ: ใส่เป็น ALT Text เพื่อช่วยเรื่อง SEO
- Handle: กำหนดชื่อ URL ของ
- วันเวลาที่เผยแพร่: เลือกเปิด/ปิดการแสดงวัน เวลาที่เผยแพร่บทความ
- ประเภทบทความ: เลือกจากหมวดหมู่บทความที่สร้างไว้
3. ข้อมูลบทความ สามารถระบุชื่อบทความ และรายละเอียดที่ต้องการให้แสดงในบทความ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
4. เครื่องมือสำหรับการสร้างเนื้อหา แนะนำให้เลือกแบบ Full Screen เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น โดยไปที่เมนู View เลือก Full Screen หากต้องการออกจาก Full Screen ให้ใช้วิธีการเดิม เพื่อทำการบันทึกข้อมูล
5. หากต้องการเพิ่มรูปภาพ ไปที่ไอคอน Image
6. จากนั้น คลิก Upload แล้ว Browse for an image เพื่ออัปโหลดรูปภาพ
7. หลังจากอัปโหลดรูปภาพแล้ว สามารถปรับขนาดความกว้าง ความสูงของรูปภาพได้ที่ช่อง Width และ Height จากนั้นคลิก Save
8. กรณีที่ต้องการจัดตำแหน่งรูปภาพให้อยู่ชิดซ้าย ชิดขวา หรือกึ่งกลาง ให้ใช้เครื่องมือเดียวกันกับการจัดรูปแบบข้อความ ตามภาพ
9. หากมีข้อความที่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบตัวอักษร ใช้เม้าส์ลากคลุมที่ข้อความ จากนั้น ไปที่ System Font จากนั้นคลิกเลือก Font ที่ต้องการ
10. หากต้องการปรับขนาดตัวอักษร ไปที่ Format เลือก Font Sizes คลิกเลือกขนาดที่ต้องการ
11. กำหนดรายละเอียดที่ส่งผลต่อการจัดอันดับแบบธรรมชาติ (SEO) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
Meta Title
คำบรรยายของเว็บเพจหน้านั้น แสดงผล 2 ตำแหน่ง คือ Title Bar ของ Web Browser และแสดงในผลการค้นหาบรรทัดแรกของ Google ความยาวไม่ควรเกิน 60 ตัวอักษร
Meta Description
คำบรรยายเนื้อหาสำคัญของเว็บเพจหน้านั้น แสดงเป็นข้อความ 2 บรรทัด ต่อจาก Meta Title ในผลการค้นหาของ Google ช่วยให้ผู้ค้นหาข้อมูลทราบว่าข้อมูลในเว็บไซต์ตรงกับความต้องการหรือไม่ และช่วยเพิ่มโอกาสให้เกิดการคลิกมายังเว็บไซต์มากขึ้น แต่ไม่มีผลต่อการจัดอันดับโดยตรง หากไม่ใส่ข้อความนี้ Google จะหาข้อความจากหน้าเว็บไซต์มาแสดงเอง ความยาวไม่ควรเกิน 160 ตัวอักษร
Meta Keywords
เป็นข้อความระบุคีย์เวิร์ดของเว็บไซต์ ปัจจุบัน Google ไม่ให้ความสำคัญแล้ว เนื่องจาก Google เก็บคีย์เวิร์ดโดยอ่านจากเนื้อหาของเว็บไซต์โดยตรง แต่มีประโยชน์สำหรับ Search Engine อื่น ๆ
